วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ​ : ปีชงอ่ะป่าว?

หลังจากที่เงินจำนวน 8,300 บาท อันตรทานไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันพยายามปลอบใจตัวเองว่า "เอาน่า ถือว่าฟาดเคราห์ะสิ้นปี"

สิ่งต่อมาที่เกิดขึ้นในใจก็คือการนั่งทบทวนถึงทุกสิ่งที่อย่างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่าน
เดี๋ยวนะ.. ปีที่ผ่านมาเป็นปีชงของฉันเหรอเนี่ย ?!

เปิดศักราชด้วยปาร์ตี้ปีใหม่
ขาหัก เดินไม่ได้ไป 4 เดือน (มกรา / กุมภา / มีนา / เมษา)

ต่อด้วยเมษา ทำกล้องที่เพิ่งซื้อได้ 2 สัปดาห์ อาบน้ำทะเลเสม็ด
สูญสิ้นทั้งกล้อง และไอโฟน4 แก่ๆ
ทำให้ต้องผ่านลมราคา 26,XXX ไป 4 เดือน และผ่อนไอโฟน 5 เครื่องใหม่ไปเงียบๆ

สิงหา ย้ายมาทำงานที่แพ เปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่
สิ่งที่เคยได้ทำ กลับไม่ได้ทำ
แถมยังต้องมาทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะอยากทำ

ตุลาคม ต้อนรับเดือนเกิดของตัวเอง ด้วยการไอโฟน 5 พัง
ต้องมาซ่อมในเมืองหลวงก่อนไปตรัง
เสียค่าซ่อมราคา 9,200 บาท

ส่งท้ายสิ้นปีด้วยการทำเงินหายอย่างไร้เหตุผล จำนวน 8,300 บาท

จากเร่ืองราวทั้งหมด ปีที่ผ่านมาเสียค่าเสียหายไปราว 82,000 บาทไทย
(หมายเหตุ : ราคานี้ยังไม่รวมค่าเสียหายเช่นการเปลี่ยนแบท เปลี่ยนยางรถ และค่าจิปาถะ)

จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า "นี่ปีชงของฉันหรือไม่?"

สุดท้าย หลังจากคิดทบทวนไปมา
ฉันกลับรู้สึกขอบคุณ ถ้าเกิดปีนี้เป็นปีชงจริงๆ
แต่ฉันรู้ว่ามันชงเอาก็ตอนที่เหลือเวลาของปีนี้อีกเพียง 3 วัน
เพราะถ้าฉันหมกมุ่นกับมันตั้งแต่ต้นปีว่าจะเป็นปีชงของฉัน

ฉันคงไม่เดินทางไกลไปแชงกรีล่า
ฉันคงไม่ตัดสินใจลาออกจากงานที่รัก เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่
ฉันคงไม่ยอมไปเที่ยวที่ไหนสักที่
ฉันคงหดหู่ ซึมเศร้า

แต่ก็ต้องยอมรับ ว่าลึกๆแล้ว ฉันเป็นคนโชคดีมาก! 
ความโชคดีอย่างแรกก็คือ ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ฉันจะมีคนอยู่ข้างๆเสมอ
แม้คนเหล่านั้นจะด่าทอฉัน จิกกัดฉัน
แต่ฉันรู้ว่าสุดท้าย เขาเป็นคนที่รักและหาทางช่วยเหลือฉันเสมอ

สุดท้ายชีวิตเราคงต้องเจอเรื่องโชคร้ายกันอีกเยอะ
รีบหาคนดีๆในชีวิต มาคอยดูแลเวลาเราทุกข์ใจ
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรัก สุดท้าย อาจจะไม่จำเป็นคนด้วยซ้ำ!

ขอให้ทุกคนได้มีใครเคียงข้างในปีที่โหดร้ายค่ะ :)





  

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ : วันมามากของหรรษา

เงียบหายไป เพราะไปทำงานตัวเป็นเกลียว
หลังจากที่เหล่าผู้ใหญ่และผู้รับผิดชอบงานทั้งหลาย ต่างลี้หนีแพไป
เหลือเพียงตัวเรา ที่ต้องก้มหน้ารับผิดชอบงานที่เหลือ
ตารางชีวิตจึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นดังนี้

5:30 - ตื่นนอน
6:00 - เริ่มต้นเช็คเอาท์แขก และดูแลพนักงานที่มาทำงานว่ามาครบไหม
7:00 - จัดสรรพนักงาน หากมาทำงานไม่ครบ ยังไงงานทั้งแพต้องเสร็จ (หากฝ่ายใดหายไป หรรษาจะต้องเป็นผู้เข้าไปทำแทน) และรับตรวจสอบของหากของหาย แขกลืมของ หรืออะไรก็ตาม รวมถึงหากของในแพเสียหาย ก็ต้องรีบแจ้งไกด์ให้รับผิดชอบเก็บค่าเสียหายมาให้ รวมถึงตามซ่อมของที่พังนั้น
9:00 - เดินกลับห้องไปอาบน้ำ แอบงีบหากหลับลง (ส่วนมากจะไม่หลับ)
11:30 - เดินดู เช็คงานส่วนต่างๆ ว่าทำเรียบร้อยไหม งานที่ต้องตรวจมีตั้งแต่ซักผ้าขนหนู / ปูเตียง / ใส่ของในห้องพัก / รดน้ำต้นไม้ / ตัดกิ่งไผ่ ฯลฯ
12:30 - ลงมากินข้าว กินกาแฟ
13:30 - เริ่มพับผ้าปู เตรียมเงินสำหรับทำทุนขายบาร์
16:00 - ขึ้นไปอาบน้ำ เพราะขายบาร์จะเลิกดึก
17:00 - ประจำการในบาร์ ต่อเนื่องไปจนปิดบาร์ โดยหากห้องแขกมีปัญหา หรือต้องการการเปลี่ยนห้อง ก็ต้องทำให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน
23:00 - เวลาปิดบาร์
23:15 - ปิดบาร์แม้แขกจะไม่ยอมให้ปิด เคลียร์ค่านวด เคลียร์ค่าบาร์
24:00 - โดยประมาณ คือเวลากลับถึงห้องเตรียมอาบน้ำนอน
00:30 - กลิ้งไปกลิ้งมา นอนไม่หลับ เพราะต้องมานอนในแพ เสียงน้ำไหล และเสียงไม้อี๊ดแอ๊ด ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ
1:00 - โดยมากจะหลับสักที

ชีวิตวนอยู่แบบนั้นเป็นสัปดาห์
จากทำไม่ได้ ทำไม่ไหว
กลายเป็นทำได้ เริ่มชิน
และเริ่มพัฒนาเป็นร่างสลายในตอนนี้

ฉันกำลังเป็นภาวะความเหนื่อยสะสม!
 นั่นถือเป็นเรื่องของปัญหา

แต่ในส่วนอื่น ภาวะที่ผ่านมาทำให้ฉันรู้สึกเคารพในตัวเองขึ้นมาก
ทำให้ฉันเห็นว่า
ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่ามันจะเหนื่อยขนาดไหน เราจะทำได้เสมอ
ขอเพียงตั้งใจ

เคยอ่านหนังสือ เกี่ยวกับการวิ่งมาราธอน ใครสักคนเคยบอกไว้
ตราบใดที่ใจเรายังไหว
ขาเราจะก้าวต่อไปได้เอง

การผ่านภาวะนี้ไปได้ ทำให้ฉันเชื่อมั่นในความแข็งแรงของใจตัวเองมากขึ้น
และหวังว่าหลายๆคน คงจะมีใจเข้มแข็งพอ
ในวันที่ต้องเจอช่วงวันมามากแบบฉันได้

ปล. แต่มามากแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก ร่างกายจะไม่แข็งแรงตามหัวใจล่ะ!