หลังจากที่เงินจำนวน 8,300 บาท อันตรทานไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันพยายามปลอบใจตัวเองว่า "เอาน่า ถือว่าฟาดเคราห์ะสิ้นปี"
สิ่งต่อมาที่เกิดขึ้นในใจก็คือการนั่งทบทวนถึงทุกสิ่งที่อย่างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่าน
เดี๋ยวนะ.. ปีที่ผ่านมาเป็นปีชงของฉันเหรอเนี่ย ?!
เปิดศักราชด้วยปาร์ตี้ปีใหม่
ขาหัก เดินไม่ได้ไป 4 เดือน (มกรา / กุมภา / มีนา / เมษา)
ต่อด้วยเมษา ทำกล้องที่เพิ่งซื้อได้ 2 สัปดาห์ อาบน้ำทะเลเสม็ด
สูญสิ้นทั้งกล้อง และไอโฟน4 แก่ๆ
ทำให้ต้องผ่านลมราคา 26,XXX ไป 4 เดือน และผ่อนไอโฟน 5 เครื่องใหม่ไปเงียบๆ
สิงหา ย้ายมาทำงานที่แพ เปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่
สิ่งที่เคยได้ทำ กลับไม่ได้ทำ
แถมยังต้องมาทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะอยากทำ
ตุลาคม ต้อนรับเดือนเกิดของตัวเอง ด้วยการไอโฟน 5 พัง
ต้องมาซ่อมในเมืองหลวงก่อนไปตรัง
เสียค่าซ่อมราคา 9,200 บาท
ส่งท้ายสิ้นปีด้วยการทำเงินหายอย่างไร้เหตุผล จำนวน 8,300 บาท
จากเร่ืองราวทั้งหมด ปีที่ผ่านมาเสียค่าเสียหายไปราว 82,000 บาทไทย
(หมายเหตุ : ราคานี้ยังไม่รวมค่าเสียหายเช่นการเปลี่ยนแบท เปลี่ยนยางรถ และค่าจิปาถะ)
จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า "นี่ปีชงของฉันหรือไม่?"
สุดท้าย หลังจากคิดทบทวนไปมา
ฉันกลับรู้สึกขอบคุณ ถ้าเกิดปีนี้เป็นปีชงจริงๆ
แต่ฉันรู้ว่ามันชงเอาก็ตอนที่เหลือเวลาของปีนี้อีกเพียง 3 วัน
เพราะถ้าฉันหมกมุ่นกับมันตั้งแต่ต้นปีว่าจะเป็นปีชงของฉัน
ฉันคงไม่เดินทางไกลไปแชงกรีล่า
ฉันคงไม่ตัดสินใจลาออกจากงานที่รัก เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่
ฉันคงไม่ยอมไปเที่ยวที่ไหนสักที่
ฉันคงหดหู่ ซึมเศร้า
แต่ก็ต้องยอมรับ ว่าลึกๆแล้ว ฉันเป็นคนโชคดีมาก!
ความโชคดีอย่างแรกก็คือ ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ฉันจะมีคนอยู่ข้างๆเสมอ
แม้คนเหล่านั้นจะด่าทอฉัน จิกกัดฉัน
แต่ฉันรู้ว่าสุดท้าย เขาเป็นคนที่รักและหาทางช่วยเหลือฉันเสมอ
สุดท้ายชีวิตเราคงต้องเจอเรื่องโชคร้ายกันอีกเยอะ
รีบหาคนดีๆในชีวิต มาคอยดูแลเวลาเราทุกข์ใจ
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรัก สุดท้าย อาจจะไม่จำเป็นคนด้วยซ้ำ!
ขอให้ทุกคนได้มีใครเคียงข้างในปีที่โหดร้ายค่ะ :)
วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556
สาส์นจากแพกาญฯ : วันมามากของหรรษา
เงียบหายไป เพราะไปทำงานตัวเป็นเกลียว
หลังจากที่เหล่าผู้ใหญ่และผู้รับผิดชอบงานทั้งหลาย ต่างลี้หนีแพไป
เหลือเพียงตัวเรา ที่ต้องก้มหน้ารับผิดชอบงานที่เหลือ
ตารางชีวิตจึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นดังนี้
5:30 - ตื่นนอน
6:00 - เริ่มต้นเช็คเอาท์แขก และดูแลพนักงานที่มาทำงานว่ามาครบไหม
7:00 - จัดสรรพนักงาน หากมาทำงานไม่ครบ ยังไงงานทั้งแพต้องเสร็จ (หากฝ่ายใดหายไป หรรษาจะต้องเป็นผู้เข้าไปทำแทน) และรับตรวจสอบของหากของหาย แขกลืมของ หรืออะไรก็ตาม รวมถึงหากของในแพเสียหาย ก็ต้องรีบแจ้งไกด์ให้รับผิดชอบเก็บค่าเสียหายมาให้ รวมถึงตามซ่อมของที่พังนั้น
9:00 - เดินกลับห้องไปอาบน้ำ แอบงีบหากหลับลง (ส่วนมากจะไม่หลับ)
11:30 - เดินดู เช็คงานส่วนต่างๆ ว่าทำเรียบร้อยไหม งานที่ต้องตรวจมีตั้งแต่ซักผ้าขนหนู / ปูเตียง / ใส่ของในห้องพัก / รดน้ำต้นไม้ / ตัดกิ่งไผ่ ฯลฯ
12:30 - ลงมากินข้าว กินกาแฟ
13:30 - เริ่มพับผ้าปู เตรียมเงินสำหรับทำทุนขายบาร์
16:00 - ขึ้นไปอาบน้ำ เพราะขายบาร์จะเลิกดึก
17:00 - ประจำการในบาร์ ต่อเนื่องไปจนปิดบาร์ โดยหากห้องแขกมีปัญหา หรือต้องการการเปลี่ยนห้อง ก็ต้องทำให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน
23:00 - เวลาปิดบาร์
23:15 - ปิดบาร์แม้แขกจะไม่ยอมให้ปิด เคลียร์ค่านวด เคลียร์ค่าบาร์
24:00 - โดยประมาณ คือเวลากลับถึงห้องเตรียมอาบน้ำนอน
00:30 - กลิ้งไปกลิ้งมา นอนไม่หลับ เพราะต้องมานอนในแพ เสียงน้ำไหล และเสียงไม้อี๊ดแอ๊ด ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ
1:00 - โดยมากจะหลับสักที
ชีวิตวนอยู่แบบนั้นเป็นสัปดาห์
จากทำไม่ได้ ทำไม่ไหว
กลายเป็นทำได้ เริ่มชิน
และเริ่มพัฒนาเป็นร่างสลายในตอนนี้
ฉันกำลังเป็นภาวะความเหนื่อยสะสม!
นั่นถือเป็นเรื่องของปัญหา
แต่ในส่วนอื่น ภาวะที่ผ่านมาทำให้ฉันรู้สึกเคารพในตัวเองขึ้นมาก
ทำให้ฉันเห็นว่า
ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่ามันจะเหนื่อยขนาดไหน เราจะทำได้เสมอ
ขอเพียงตั้งใจ
เคยอ่านหนังสือ เกี่ยวกับการวิ่งมาราธอน ใครสักคนเคยบอกไว้
ตราบใดที่ใจเรายังไหว
ขาเราจะก้าวต่อไปได้เอง
การผ่านภาวะนี้ไปได้ ทำให้ฉันเชื่อมั่นในความแข็งแรงของใจตัวเองมากขึ้น
และหวังว่าหลายๆคน คงจะมีใจเข้มแข็งพอ
ในวันที่ต้องเจอช่วงวันมามากแบบฉันได้
ปล. แต่มามากแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก ร่างกายจะไม่แข็งแรงตามหัวใจล่ะ!
หลังจากที่เหล่าผู้ใหญ่และผู้รับผิดชอบงานทั้งหลาย ต่างลี้หนีแพไป
เหลือเพียงตัวเรา ที่ต้องก้มหน้ารับผิดชอบงานที่เหลือ
ตารางชีวิตจึงต้องปรับเปลี่ยนเป็นดังนี้
5:30 - ตื่นนอน
6:00 - เริ่มต้นเช็คเอาท์แขก และดูแลพนักงานที่มาทำงานว่ามาครบไหม
7:00 - จัดสรรพนักงาน หากมาทำงานไม่ครบ ยังไงงานทั้งแพต้องเสร็จ (หากฝ่ายใดหายไป หรรษาจะต้องเป็นผู้เข้าไปทำแทน) และรับตรวจสอบของหากของหาย แขกลืมของ หรืออะไรก็ตาม รวมถึงหากของในแพเสียหาย ก็ต้องรีบแจ้งไกด์ให้รับผิดชอบเก็บค่าเสียหายมาให้ รวมถึงตามซ่อมของที่พังนั้น
9:00 - เดินกลับห้องไปอาบน้ำ แอบงีบหากหลับลง (ส่วนมากจะไม่หลับ)
11:30 - เดินดู เช็คงานส่วนต่างๆ ว่าทำเรียบร้อยไหม งานที่ต้องตรวจมีตั้งแต่ซักผ้าขนหนู / ปูเตียง / ใส่ของในห้องพัก / รดน้ำต้นไม้ / ตัดกิ่งไผ่ ฯลฯ
12:30 - ลงมากินข้าว กินกาแฟ
13:30 - เริ่มพับผ้าปู เตรียมเงินสำหรับทำทุนขายบาร์
16:00 - ขึ้นไปอาบน้ำ เพราะขายบาร์จะเลิกดึก
17:00 - ประจำการในบาร์ ต่อเนื่องไปจนปิดบาร์ โดยหากห้องแขกมีปัญหา หรือต้องการการเปลี่ยนห้อง ก็ต้องทำให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน
23:00 - เวลาปิดบาร์
23:15 - ปิดบาร์แม้แขกจะไม่ยอมให้ปิด เคลียร์ค่านวด เคลียร์ค่าบาร์
24:00 - โดยประมาณ คือเวลากลับถึงห้องเตรียมอาบน้ำนอน
00:30 - กลิ้งไปกลิ้งมา นอนไม่หลับ เพราะต้องมานอนในแพ เสียงน้ำไหล และเสียงไม้อี๊ดแอ๊ด ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ
1:00 - โดยมากจะหลับสักที
ชีวิตวนอยู่แบบนั้นเป็นสัปดาห์
จากทำไม่ได้ ทำไม่ไหว
กลายเป็นทำได้ เริ่มชิน
และเริ่มพัฒนาเป็นร่างสลายในตอนนี้
ฉันกำลังเป็นภาวะความเหนื่อยสะสม!
นั่นถือเป็นเรื่องของปัญหา
แต่ในส่วนอื่น ภาวะที่ผ่านมาทำให้ฉันรู้สึกเคารพในตัวเองขึ้นมาก
ทำให้ฉันเห็นว่า
ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่ามันจะเหนื่อยขนาดไหน เราจะทำได้เสมอ
ขอเพียงตั้งใจ
เคยอ่านหนังสือ เกี่ยวกับการวิ่งมาราธอน ใครสักคนเคยบอกไว้
ตราบใดที่ใจเรายังไหว
ขาเราจะก้าวต่อไปได้เอง
การผ่านภาวะนี้ไปได้ ทำให้ฉันเชื่อมั่นในความแข็งแรงของใจตัวเองมากขึ้น
และหวังว่าหลายๆคน คงจะมีใจเข้มแข็งพอ
ในวันที่ต้องเจอช่วงวันมามากแบบฉันได้
ปล. แต่มามากแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก ร่างกายจะไม่แข็งแรงตามหัวใจล่ะ!
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)