วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ : ตัดสินใจ 1 ที กระเด้งไปอีก 3 ที

อายุที่เลยผ่านมาจนวันนี้ วันสุดท้ายที่ฉันจะอายุ 27 ปี
ทำให้ฉันได้คิด และได้ผ่านการตัดสินใจมาหลายต่อหลายครั้ง
หลายที ที่ฉันคิดว่าฉันตัดสินใจดีที่สุดแล้ว
แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่
หลายหน ที่คิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่คือหายนะ
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องโคตรพิเศษ

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องกันนะ?

การตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดของฉัน
คือการที่ฉันตัดสินใจย้ายมาทำงานอยู่ที่กาญจนบุรี
อพยบจากถิ่นฐานบ้านเกิดอย่างกทม.
ห่างไกลจากแม่ เพื่อน แมว หมา และทุกอย่างที่ฉันเคยชิน
มาอยู่กลางป่าตรงนี้

ในเดือนแรก ที่นี่คือหายนะ
การปรับตัว ปรับใจใหม่ทั้งหมด
ต้องใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน
ต้องจากความสุข ความรักที่เคยได้รับ
มาอยู่ในที่ห่างไกล ที่ไม่เห็นจะมีพื้นที่ไหนเป็นของเรา

มันอาจจะเป็นบทเรียนหนึ่งที่ฉันต้องเรียนรู้

everythings happen for a reason.

เราอาจจะไม่รู้เลยว่าการที่เราทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงนี้
มันจะส่งผลต่ออนาคตของเราอย่างไรบ้าง

 ที่นี่อาจจะไม่ใช่ที่สุดท้ายในชีวิตฉัน
แต่ก็สอนอะไรให้ฉันมากมาย
และทำให้ฉันได้ทำ ในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้
รวมถึงได้เห็นว่าตัวเองมีความสามารถซ่อนอยู่อีกเพียบ

กลับมาเรื่องการติดสินใจอีกครั้ง
แม้จะมีความฝัน ความต้องการ และความอยาก
วิ่งเข้ามาชน รุมสุมทรวง ทะลวงอกฉันทุกวี่วัน
แต่ฉันก็ยังเชื่อ ว่าในทุกการติดสินใจของเรา
ถ้าเรามีสติ และคิดอย่างดีแล้ว
มันจะพาเราไปสู่อะไรสักอย่างที่ดีแน่นอน

เพราะสุดท้าย คำตอบที่ดีที่สุด มันไม่มีอยู่ในชีวิตจริงหรอก
มีแต่คำตอบที่เหมาะกับเราที่สุด
และคำตอบที่ทำให้เราเติบโตได้มากที่สุดต่างหาก

ขอให้ทุกคนตัดสินใจได้มั่นคงขึ้นทุกวัน : )



วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ : ภาษาพาเพลิน

ก่อนจะมาทำงานที่นี่ ฉันคิดว่าต้องได้เรียนรู้ภาษารัสเซีย
เพราะเป็น Target หลักของที่แพ ได้เจอกันทุกวัน
ซึ่งก็แน่นอนว่าฉันต้องฝึกพูดคำทั่วๆไป ที่ต้องพูดทุกวัน
และก็อีกนั่นแหละ ฉันต้องจดเป็นคำๆที่ฉันจะจำการออกเสียงได้ เช่น

สะปายสิบ้า = ขอบคุณ
สะปายสิบ้า วัม = ขอบคุณมาก
บาชอย = ใหญ่
มาริงกี้ = เล็ก
แอโต ซะโตยอิท = อันนี้ราคา.. (จิ้มเครื่องคิดเลขเอา)
โดเบรอุตตร้า = อรุณสวัสดิ์
โรม = เหล้ารัม (มักเรียกแสงโสม)
สะปาโกเอน่า โนเช่ = ราตรีสวัสดิ์
(นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ที่คนรัสเซียไม่รู้จักคำว่า Good Night!)
 เปรียดญาว่า อะปิจิต้า = ขอให้กินข้าวให้อร่อย (อะไรประมาณนี้ละมั้ง)
 อูดาจิห์ = โชคดี (น่าจะเป็นอย่างงั้น)

บอกเลยว่าคำเหล่านี้มาจากการแอบฟัง แอบจด และแอบจำทั้งสิ้น

และนอกจากภาษารัสเซียที่ได้ชื่อว่ายากนักหนาแล้ว 
ในขณะนี้ ฉันกำลังเรียนรู้ภาษาใหม่อีกภาษานั่นคือ ภาษาพม่า!!

"มิงกะลาบา" - สวัสดี
"เจ้สุตีนปาแด่" - ขอบคุณ
"ช่อแด" - สวย
"หะหล่าแด่" - สวยแบบหุ่นดี
"ทมินซ่าบีล่า"- กินข้าวหรือยัง
"นีนกูชิดเด่"- ฉันรักเธอ (จะจำมาทำไม!)
"ตะเตี้ยแด" - คิดถึง
"เอ้นง่ายละ"- ง่วงแล้ว
"ม่อละ" - เหนื่อยแล้ว
"ตาต้า" - บ๊ายบาย

นี่คือส่วนหนึ่งจากการเรียนรู้แบบถามคำ ตอบสองคำของหรรษา
บางคนถามว่า ทำไมไม่เอาเวลาไปจำภาษารัสเซียไม่ดีกว่ารึ?!
คือ ..​ คนรัสเซียที่เจอเนี่ย เจอกันวันเดียวมันก็ไปจากเราละ
แต่คนพม่าที่ทำงานให้เราเนี่ย!! ต้องอยู่กันไปอีกกี่วัน!
เรียนภาษาพม่านี่แหละ ถือว่าต้อนรับ AEC!!

หมายเหตุ : ก่อนหน้าจะเรียนภาษาพม่า ฉันฝึกภาษามอญ
จนเริ่มจะจับสำเนียงได้ 
เชอรี่ก็มาบอกฉันว่า
"พี่แนนจะเรียนภาษามอญทำไม ไม่ใช่ใครๆเขาก็พูดกันได้นะ
ที่แพเนี่ย มีทั้งมอญ ทวาย พม่า แต่ทุกคนพูดภาษาพม่าได้
พี่เรียนภาษาพม่าดิ"
ขอขอบคุณเชอรี่อีกทีมา ณ ที่นี้ด้วย

นี่คือภาษาพม่า 


 



ต่อไปนี้คือ ภาษามอญ 



สุดท้าย ฉันไม่รู้หรอกว่าภาษาอะไร สำคัญกว่ากัน
รู้เพียงว่า..
ภาษาอาจจะทำให้เราเข้าใจกันยากขึ้น 
แต่ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เราไม่เข้าใจกัน 
ถ้าใจเราเปิดกว้างพอ 

อ้าละเน้อ~

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ : ปรัชญาการทำงาน

เมื่อวันก่อนมีรุ่นน้องมาปรึกษา เรื่องการลาออก
ว่าถ้าเราทำงานแล้วรู้สึกไม่อิน เราควรทำต่อไปไหม?

ฉันตอบง่ายๆ "ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์ชีวิตเราแล้ว ก็ออก"
คำตอบง่ายๆ แต่ทำยาก
ฉันเชื่อว่าคนเราทุกคนต้องมีโจทย์ของชีวิตตัวเอง
และโจทย์ของแต่ละคนก็แตกต่างกัน
แตกต่างไม่พอ วันเวลาเปลี่ยนไป โจทย์ก็อาจจะเปลี่ยนตามอีกด้วย

ในวันหนึ่งของชีวิต โจทย์ของฉันคือการได้เป็น Copy Writer  ที่ได้ทำงานโฆษณาเจ๋งๆ
ในวันหนึ่งของชีวิต โจทย์ของฉันคือการได้ทำเอ็มวีที่ใครๆดูก็ต้องชอบ
และในวันหนึ่งของชีวิต โจทย์ของฉันคือ ..

เออ โจทย์ของฉันตอนนี้คืออะไร?!


ขอตัดภาพกลับมาที่การทำงานของฉัน
สองวันนี้ ฉันทำงานกับเชอรี่ โดยเราทั้งคู่ได้รับภารกิจมหัศจรรย์เช่น
- ขัดขี้นกหน้าห้องแขก ให้ทันก่อนแขกจะเข้า
- ตัดกิ่งไม้หน้าห้องแขกให้เรียบร้อย

วันนี้คือภารกิจตัดกิ่งไม้ ที่ฉันทำกับเชอรี่เพียง 2 คน
ทำให้เราทั้ง 2 คนได้คุยกัน

นี่คือบทสนทนาบางส่วนที่ทำให้ฉันรักในตัวเชอรี่

"หนูบ้างาน หนูชอบทำงานมาก ใครจะพูดยังไงหนูไม่รู้
ขอให้หนูได้ทำงานเดินไปเดินมา หนูพอใจละ"
"แล้วเชอรี่ชอบทำงานอะไร?"
"ไม่รู้สิ..หนูชอบทำงานบริการมั๊ง พอมีแขกมาชมนะ หนูดีใจ๊ดีใจ
ทั้งที่เขาไม่ได้ชมหนูนะ อาหารหนูก็ไม่ใช่คนทำ แต่มันปลื้ม"

"หนูไม่ค่อยมีเพื่อน หนูคงเป็นคนเห็นแก่ตัว
หนูขี้รำคาญด้วย หนูอยากทำแต่งาน"

"หนูไม่ได้อยากแต่งงานนะพี่ แต่ตอนนั้นหนูมาเมืองไทยแรกๆ
หนูเพิ่งได้เจอพ่อกับแม่หนู เขามาเมืองไทยตั้งแต่หนูไม่กี่ขวบเอง
แล้วพอมาเจอกันตอนหนูอายุ 15 เขาก็หวงหนูมากกกก
ห้ามหนูยิ้มอ่ะพี่แนน หนูเลยไม่ค่อยมีคนคบ
จนหนูคิดว่าหนูจะฆ่าตัวตาย
วันนีงหลงมาชอบหนู หนูเลยโทรหาเขาบอกให้เขามารับหนูเลย
หนูจะหนีไปกับเขาละ หนูทนไม่ไหวแล้ว
เขาก็ไม่กล้ามารับหนูนะ กลัวๆ กล้าๆ
สุดท้ายก็มาพาหนูหนีไป หนูบังคับให้เขาพาหนูหนีนี่แหละ
สงสารเขานะ โดนหนูสั่ง สุดท้ายยังต้องมาเสียค่าสินสอดให้หนูอีก"

"อยู่กับหลงนะ เขายอมหนูทุกอย่าง
หนูบอกอย่ามายุ่งกับหนู หนูจะทำงาน เขาก็ทำงานบ้านให้
คือหนูกลับบ้านแล้วหนูไม่อยากทำงานอะไรแล้วอ่ะ
เขาก็ยอมหนู"

"มือถือเครื่องเนี๊ยะ หนูก็ไม่ได้อยากได้นะ แต่หลงซื้อมาให้
เขาอยากคุยเห็นหน้ากับหนู อยากไลน์กับหนู
เพราะโทรหาหนูแล้วหนูรำคาญ บอกจะทำงานๆ
เขาเลยบอก เดี๋ยวไลน์ไป ว่างเมื่อไหร่ก็ตอบนะ
ทุกวันนี้หนูก็ต้องคุยกับเขาทุกคืน ก่อนนอนวันละ 5 นาที
แค่เนี๊ยะ เขาก็พอใจละ"

"หนูสงสารเขานะ อยากให้เขาได้เจอคนดีๆ ไม่ใช่ท่อนไม้อย่างหนู"

 "หนูบ้ามากนะพี่แนน หนูเก็บเงินเก่งมาก
ตอนทำงานที่เก่านะ หนูกินข้าวเช้า ข้าวกลางวันกับเขา
ตอนเย็นก็รับจ๊อบล้างจาน หนูก็กินข้าวเย็นกับเขา
วันไหนไม่มีงานทำนะ หนูก็ต้มมาม่า เด็ดเอาผักข้างบ้านมาต้มกินด้วย
หนูกับหลงอ่ะ หาเงินได้เดือนละ 3 หมื่นเลยนะ เก็บกันแหลกเลย
ตอนนี้หนูซื้อที่ไว้ละ แล้วก็กำลังสร้างบ้าน"

ถ้าให้เชอรี่ไปอยู่เมืองนอก มีฝรั่งเต็มเลย ไปไหม?
"ไปดิ มีงานให้หนูทำนะ หนูไปหมดอ่ะ อย่าเอาหนูไปนั่งเฉยๆ ก็พอ
แต่อยู่ที่นี่ดีนะ หนูได้ทำงานเยอะมาก ทำตลอดเวลาเลย มีความสุขมาก"

"ป้าบอกจะให้เงินหนูเยอะขึ้น หนูบอกอย่าเลย
เกิดหนูรวยละจะนอนเฉยๆ ได้เงินแค่นี้ก็เยอะแล้ว"


 ตัดภาพกลับมาอีกที ว่าด้วยการลาออก แรงบันดาลใจ และโจทย์ในชีวิต
สุดท้ายแล้วทุกข์ทรมานของการทำงาน สำหรับคนๆหนึ่ง
อาจจะเป็นสวรรค์ของใครอีกคน

ในวันนั้น สิ่งที่ฉันบอกน้องคนนั้นไป คือคำที่ฉันใช้ปลอบตัวเองตอนมาทำงานที่นี่
"เราเลือกใช้ชีวิตได้ 2 แบบ
อย่างแรก คืออิจฉาคนทั้งโลก
กับอีกอย่าง คือใช้ชีวิตให้คนทั้งโลกอิจฉา"

ที่ผ่านมาฉันอาจจะใช้ชีวิตแบบแรก
แต่ต่อจากนี้ ฉันจะใช้ชีวิตให้ทุกคนอิจฉา

ชีวิตแบบเชอรี่..




 "พี่ให้หนูเงียบวันนึงได้นะ แต่อย่ามามัดมือมัดขาหนูเลย หนูขอทำงานเหอะ
เราไม่ทำงาน เราจะทำอะไร
หนูจะไม่ยอมให้ใครว่า หนูทำงานไม่ดีเด็ดขาด
มันเสียศักดิ์ศรี!!"


วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาส์นจากแพกาญฯ : Butterfly Effect และ รักจุงเบย งิงิ งุงุ

เวลาเราคุยกันด้วยภาษาในโลกออนไลน์
คุณใช้ภาษาแบบถูกต้องทุกตัวอักษรหรือเปล่า?

ถ้าถามคำถามนี้ออกไป คนมากมายต้องส่ายหัว พลางบอกว่า
ก็ขี้เกียจพิมพ์
ก็เป็นวัยรุ่น
ก็นั่น ก็นี่ มากมายก่ายกอง
และที่สำคัญคือ

"มันก็อ่านออกไม่ใช่หรือไง!"
(แน๊ โดนด่ากลับอีกฉัน)

ใช่ มันอ่านออก
แต่จะเล่าอะไรให้ฟัง

เมื่อ 2-3 วันก่อน ฉันได้รับภารกิจลับจาก เชอรี่ สาวน้อยหน้าใสประจำแพ
ดังที่เคยกล่าวไว้ เชอรี่เป็นสาวเชื้อสายมอญ สัญชาติพม่า ที่มาอาศัยอยู่ในไทย
และตอนนี้ก็ทำงานอยู่ในแพ

จุดเริ่มต้นของภารกิจนี้คือ สามีเชอรี่ซื้อมือถือเครื่องใหม่มาให้
เพื่อให้เชอรี่ฝึกภาษาไทย
และเพื่อใช้ติดต่อกับ (สามีเชอรี่อยู่ในเมืองกาญฯ จะเจอกันแค่เสาร์อาทิตย์)

เชอรี่จึงอยากมีเฟสบุคและไลน์ 
นั่นคือภารกิจ ฉันต้องสมัครเมลล์ / เฟสบุค และไลน์ให้เชอรี่

เมื่อมาถึงการกรอกอายุ
เชอรี่อายุ 24 แต่ในใบต่างด้าว เชอรี่อายุเพียง 22 เพราะ
"แม่หนูทำใบเกิดหนูหาย หนูเลยต้องไปทำใหม่ ในใบหนูเลยเด็กกว่า 2 ปี"

และที่อัศจรรย์สุดๆคือ นามสกุลของเชอรี่!
"หนูนามสกุล ร่รมสวัสดิ์"
"อ๋อ ร่มสวัสดิ์?"
"ไม่ค่ะ ร่รม ร.เรือ 2 ตัว"
"บ้า มันจะออกเสียงแบบนั้นได้ไง"
"จริงจริ๊งง พี่แนน ไม่เชื่อหนูไปดูในใบหนูได้เลย สะกดแบบนี้กันทั้งบ้านจริงๆ"
คาดว่านี้คงเป็น Butterfly Effect จากนายทะเบียนตาลายคนหนึ่ง
ที่สะกดผิด!
พาให้ตระกูลนี้ทั้งตระกูล มีนามสกุลที่ออกเสียงไม่ได้!!





หลังจากการสมัครแสนวุ่นวาย

(ทำให้รู้ว่า Facebook ทุกวันนี้สมัครยากเหลือเกิน)

ฉันก็จากไปทำงานอื่นๆ ที่พึงทำประจำวัน
จนเย็นย่ำ เชอรี่ไลน์มาหาฉัน เรียกไปกินข้าว
แน๊ ทุกวันนี้เด็กพม่าไลน์มาหาฉันได้แล้ว!

เมื่อเดินไปกินข้าว เชอรี่เดินมาหาฉันด้วยหน้าตาตื่นเต้น ว่า
"หนูไลน์ไปหาพี่แนนถูกไหม?"
"อ่อ สะกดคำว่า หนู ผิด หนูต้องเป็นสระอู" 
"อ่าวเหรอคะ หนูจดมาจากเวลาคนเขาส่งคุยกัน" 
"..ไหน เอามาให้พี่ดูสิ ว่าสะกดอะไรบ้าง"

ทำใม
อัลไล 
อยูไน
ยากจุงเบย 
ฯลฯ


ฉันนั่งสอนเชอรี่ ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกที่ควรจะพิมพ์
คือ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเรา
แต่สำหรับสาวพม่าหน้าใสคนนี้ เขาจดทุกอย่างที่ผิดๆ มาใช้! 
พลางให้ฉันคิดไปจนถึงชื่อเฟสอีกหลายอันที่สะกดผิดๆ ภาษาวิบัติสุดๆ 
ฤ เขาจะมีหลักการณ์เดียวกับเชอรี่นะ...
 
หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้หลายคนที่กำลังใช้ภาษาวิบัตินะคะ 

ลักนะ จุบุจุบุ



"เชอรี่ มันให้มีรูป Profile เอารูปไรดี"
"หนูยังไม่มีเลย"
"อ่ะ งั้นถ่ายเลยละกัน" กดเปิดกล้อง
"ไม่เอ๊า หนูไม่ชอบถ่ายย" 
แสงหน้าจอวาบ
 

เจอเฟสบุคสาวคนนี้เมื่อไหร่
อย่าลืมใช้ภาษาที่ถูกต้องกับเธอนะคะ


 

สาส์นจากแพกาญฯ : ลาก่อน Exteen และการรับน้องริ้น

คืออยากจะอัพมาหลายวันล่ะ แต่ตอนนี้เหมือนจะ bad gate way ตลอดเวลา
หรรษาจึงขอหาที่ใหม่ในการระบาย

ตัดภาพกลับมาที่แพ

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราไปเป็นหน้าใหม่ของที่ไหน
เรามักจะโดนรับน้อง
ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ฉันกำลังโดนรับน้อง.. อย่างรุนแรง
เป็นการรับน้องที่ฉันไม่มีโอกาสเตรียมตัว
เป็นรับน้องที่โหด และสร้างบาดแผลให้กับตัวฉันมากมาย

ฉันโดนรับน้อง "ริ้น"

เอาจริงๆ ฉันไม่ค่อยจะเคยรู้จักริ้น
รู้จากสุภาษิตก็เพียง "ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม"
แล้วยังไง ริ้นคืออะไร หน้าตาเป็นยังไง?
ฉันจึงเข้าไปดูใน wikipidia

เรื่องราวนังริ้นตัวร้าย

คือ..เดี๋ยวนะ
เราไม่เคยรู้จักกัน แต่เธอทำร้ายฉันขนาดนี้เลยเรอะ?!





ฉันเหมือนคนเป็นไข้เลือกออก และอีสุกอีใสเวลาเดียวกัน
ทุกคนที่เห็นขาฉันต่างตกใจ และคิดว่าฉันติดเชื้อ
แม้แต่พี่โทน ที่ช่ำชองเรื่องในป่า ยังบอกว่า
"ผมว่า..พี่เลิกไปตัดกิ่งไม้เถอะ"

จุดเริ่มต้น มันมาจากเม็ดเล็กๆ ใสใส
ทำให้พี่โทนคิดว่าฉันเป็น อีสุกอีใส
จนฉันเองก็เริ่มสับสนว่าฉันเป็นอีสุกอีใสหรือเปล่า

ตอนนี้มียาหลายขนาด (แม้แต่ยาแก้งูสวัด) ที่ให้ฉันเลือกทา
แต่รอยก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก

ใครมีวิธีต่อสู้กับริ้น รบกวนบอกด้วยนะคะ

ปล.บัดนี้ริ้นเริ่มลามมากัดในร่มผ้า และในเสื้อผ้าดิฉันแล้ว!